
แพ้ไรฝุ่น ที่นอน เลือกแบบไหน? คู่มือจัดการภูมิแพ้ให้นอนหลับสบาย อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ตาแดง คันคอหลังตื่นนอน อาจไม่ใช่หวัด แต่คือ “ไรฝุ่น” ตัวจิ๋วที่ชอบอยู่ในที่นอน หมอน ผ้าห่ม โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย การเลือก “ที่นอน” ให้ถูกวัสดุและดูแลอย่างเป็นระบบ จะช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ ทำให้คุณหลับเต็มอิ่มมากขึ้น
เข้าใจศัตรูตัวจิ๋ว—ทำไมไรฝุ่นถึงชอบที่นอน?
ชอบที่อุ่น–ชื้น (เหงื่อจากร่างกาย)
อาหารคือ “ผิวหนังที่ลอกหลุด” ของเรา
อยู่ลึกในเส้นใย ใต้ปลอกผ้าปู จึงดูดฝุ่นทั่วไปไม่ถึง
วัสดุที่นอนสำหรับคนแพ้ไรฝุ่น
ยางพารา: ระบายอากาศดี ไม่กักฝุ่นแน่น ยืดหยุ่น เด้งตัวไว
สปริง + ชั้นโฟมคุณภาพ: ให้ลมไหลเวียนดี เหมาะเมืองร้อน
เมมโมรีโฟมรุ่นระบายอากาศ: ถ้ามีเจล/ร่องระบาย จะลดอับชื้นได้ดีขึ้น
หลีกเลี่ยงปลอกผ้าหนา/ทอหยาบ ที่อุ้ยฝุ่น และเลือกปลอกกันไรฝุ่นคุณภาพ
ตารางดูแลที่นอนแบบง่ายแต่ได้ผล
รายสัปดาห์: ซักผ้าปู–ปลอกหมอนน้ำอุ่น 60°C, ตากแดด/แดดรำไร
รายเดือน: ดูดฝุ่นที่นอนด้วยเครื่อง HEPA, ฉีดพ่นน้ำยากำจัดไรฝุ่นที่ปลอดภัย
รายไตรมาส: เปิดหน้าต่างให้แดด–ลมเข้า ไล่ความชื้น
ราย 6–12 เดือน: สลับกลับด้าน (ถ้ารุ่นกลับได้), ตรวจจุดยุบ
ขนาด/ไซซ์ที่นอน—เลือกให้เข้าห้องและผู้ใช้
ที่นอน 3 ฟุต / 3.5 ฟุต / 4 ฟุต เหมาะหอพัก–คอนโดเดี่ยว
ที่นอน 5 ฟุต (152×198 ซม.) สำหรับสองคนพื้นที่พอดี
ที่นอน 6 ฟุต (183×198 ซม.) สำหรับครอบครัว/คนแพ้ง่ายต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น
คำถามยอดนิยม: ที่นอน 3.5 ฟุต กว้าง ยาว เท่าไร → ~107×198 ซม., ที่นอน 6 ฟุต เท่ากับกี่เซนติเมตร → 183×198 ซม.
อุณหภูมิห้อง & การระบายอากาศ
ความร้อนและชื้นคือเพื่อนสนิทของไรฝุ่น ตั้งอุณหภูมิห้องราว 24–26°C และลดความชื้น เปิดหน้าต่างให้แสงเข้าเป็นครั้งคราว เลือกที่นอนที่ “เย็น ระบายอากาศดี” จะช่วยให้คุณ “นอนหลับลึกขึ้น” ลดตื่นกลางดึกจากอาการคัดจมูก
อุปกรณ์เสริมที่ควรมี
ปลอกกันไรฝุ่นคุณภาพ: คลุมที่นอนและหมอนทั้งหมด
ท็อปเปอร์ที่นอน (topper ที่นอน): ใช้ปรับความนุ่ม/แน่น โดยเลือกวัสดุที่ไม่อับ
หมอนสูง–ต่ำพอดี: ลดอาการกรน/คัดจมูกจากการโค้งคอ